MD&A

Management Discussion and Analysis
Overview of operations and financial status

บริษัทและบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัท”) ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสื่อโฆษณา สื่อโทรทัศน์และภาพยนตร์ โดยบริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) มีธุรกิจหลักคือ ให้บริการผลิตภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวสำหรับสื่อโฆษณา ส่วนบริษัท ไม้ยืนต้น จำกัด( “บริษัทย่อย”หรือ“ไม้ยืนต้น”) ดำเนินธุรกิจให้เช่าสตูดิโอสำหรับการถ่ายภาพยนตร์ โฆษณา และรายการโทรทัศน์ ทั้งรายวันและรายเดือน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 5 สตูดิโอ

ในปี 2559 ดำเนินการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัท และบริษัทที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และเพื่อนำหุ้นสามัญของกลุ่มบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยการปรับโครงสร้างกลุ่มบริษัทในครั้งนี้ส่งผลให้บริษัท ตาชำนิ จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ฟิฟตี้วัน บางกอก จำกัด และบริษัท ไม้ยืนต้น จำกัด โดยถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 และ 99.60 ตามลำดับ

ในปี 2560 บริษัท ไม้ยืนต้น จำกัด เพิ่มทุนจำนวน 62.00 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,120 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100,000 บาท ส่งผลให้ไม้ยืนต้นมีทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 50.00 ล้านบาทเป็น 112.00 ล้านบาท และสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทในบริษัทย่อยเปลี่ยนเป็นร้อยละ 99.82 ของทุนจดทะเบียนบริษัทย่อย ต่อมาปี 2562 บริษัท ฟิฟตี้วัน บางกอก จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการผลิตภาพนิ่งจากช่างภาพที่มิใช่ช่างภาพเฉพาะของบริษัท (Exclusive Photographer for Chamni’s Eye) ได้หยุดการดำเนินธุรกิจทั้งหมด ภายหลังจากที่ดำเนินการโอนย้ายพนักงานและสินทรัพย์ในการประกอบธุรกิจมายังบริษัท

ปี 2562 ถึง 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการเท่ากับ 309.99 ล้านบาท 230.29 ล้านบาท และ 266.24 ล้านบาท ตามลำดับ ในปี 2563 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากให้บริการลดลงร้อยละ 25.71 เนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และมาตรการการจำกัดการรวมตัวกัน ทำให้ลูกค้าชะลอการผลิตสื่อโฆษณา และลดปริมาณการจัดทำสื่อโฆษณา อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นจากปีก่อนร้อยละ 15.61 เนื่องจากในปี 2564 หน่วยงานภาครัฐได้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ประกอบกับการปรับตัวของกลุ่มบริษัทในมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในการให้บริการ และกลุ่มลูกค้าให้เข้ากับฐานวิถีชีวิตใหม่ (New normal) มากขึ้น รวมถึงอุปสงค์ของอุตสาหกรรมและความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2564

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจากเอกสาร

รายการ ชนิดไฟล์ ดาวน์โหลด